วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

สังคมเมืองพาประเทศก้าวไกล

ตามปกติแล้วการเติบโตของสังคมเมืองสามารถอิงการเติบโตของประเทศได้ร้อยละ 30 ของภาพเศรษฐกิจโดยรวม ในปัจจุบันเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกมีถิ่นอาศัยในเมือง แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 50-60 ปีก่อนหน้านั้นจะพบว่าประชากรส่วนใหญ่อาศัยตามชนบทและป่าเขา มีประชากรเพียง 30% เท่านั้นที่อาศัยอยู่ในเมือง เนื่องจากสาเหตุความวุ่นวายและภาวะต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ลำบากยากยิ่ง แต่ปัจจุบันไม่ใช่อย่างนั้น

เฉพาะในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เพราะมีการปฏิรูปประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ส่งผลให้วิถีชีวิตของประชากรในเมืองมีความสะดวกสะบายมากขึ้นและไม่มีภาวะกดดันทางการเมืองใดๆ มีระบบการคมนาคมขนส่งที่ดี มีระบบแรงงาน ระบบสาธารณูปโภค อาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัยที่ดีมากขึ้น ประชากรที่เคยอาศัยในชนบทก็เริ่มย้ายถิ่นฐานเข้ามาปักหลักในเมืองมากขึ้น หรือชุมชนไหนมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้นก็ตั้งตัวเป็นเมืองเล็ก และขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นเมืองใหญ่ ประชากรทั้งหลายเริ่มแสวงหารายได้และสิ่งอำนวยความสะดวก เนื่องจากง่ายขึ้นไม่ต้องไปผจญกับอันตรายในป่าเขาและชนบทอันห่างไกล ทำให้มีประชากรมากขึ้นด้วยความต้องการปัจจัยการดำรงชีวิตที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ปฏิรูปประเทศไทยและปฏิรูปสังคม


ในขณะเดียวกัน นโยบายของประเทศที่มุ่งกระจายรายได้และการพัฒนาไปสู่ชนบท มีบทบาทมากขึ้นสามารถช่วยยกระดับการพัฒนาสังคมชนบทไปสู่การเป็นสังคมเมืองมากขึ้น แนวโน้มความเจริญของประเทศก็เพิ่มมากขึ้น เข้าข่ายลักษณะในการปฏิรูปประเทศไทยมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ในลักษณะนี้ธุรกิจที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือพวกก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง พลังงาน โทรคมนาคม อินเตอร์เน็ต อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้า เครื่องประดับ รถยนต์ เมื่อมีความต้องการพัฒนาธุรกิจ ความต้องการด้านแรงงานก็ตามมา เมื่อแรงงานมากรายได้แรงงานก็อยู่ได้ ธุรกิจก็เติบโต ทำให้ประเทศเติบโต จากสังคมชนบทที่ถูกยกระดับเป็นสังคมเมือง เมืองแล้วเมืองเล่า จนนำพาประเทศเข้าสู่ยุคปฏิรูปประเทศไทยยุคใหม่

เมื่อนั้นประเทศไทยก็จะก้าวหน้าไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น แต่จะรอให้ถึงวันนั้น ทุกฝ่ายควรหันหน้าเข้าหากัน แม้ไม่ใช่เป็นตัวหลักในการส่งเสริมและตัดสินใจ แต่ร่วมกันเสนอแนวคิดและหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหานำพาประเทศให้เดินหน้าต่อไป ใช่ว่าจะทำกันไม่ได้ แต่ไม่อยากทำกันมากกว่า เพราะอะไร..