วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิธีแก้ปัญหาเด็กช่างตีกัน ได้ผลสุดๆ

มาล่ะ ปัญหาอย่างหนึ่งที่เป็นปัญหาระดับประเทศของการแก้ไขระบบการพัฒนาประเทศที่เป็นไปได้ยาก นั่นคือ ปัญหาการตีกันของเด็กช่าง แม้หลายฝ่ายจะเสนอแนวทางออกที่ดีและคิดว่าทำได้ดีมาก แต่พอเอาเข้าจริง สันดานของคนกลุ่มนี้ก็จะก่อปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดมีผู้ประสงค์ดีทำความดีโดยการฉีดพ่นสเปรสีขาวเพื่อลบเหล่างานอาร์ตตามกำแพง สะพานลอย เสาทางด่วน เพื่อให้บ้านเมืองสะอาดและเพื่อแก้ตัวในคราวที่เดินทางผิด แต่ทำไปทำมากลับโดนยิงหัวซะงั้น

ปฏิรูปประเทศไทยจะไปรอดได้อย่างไร เมื่ออนาคตของชาติยังทะเลาะเบาะแว้งฆ่ากันเองแบบนี้ แม้จะส่งไปฝึกทหาร ให้มันปรับทัศนคตี ก็ยังคงกลับออกมาก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ผมไม่เข้าใจว่าพวกเค้าต้องการอะไร อยากให้สังคมยอมรับ กระนั้นหรือ?


การแก้ปัญหาเด็กช่างตีกัน และผมมีทางออกคือ จัดโซนให้มันไปอยู่ในสถานที่เดียวกันเลยทั้งประเทศ เรียกว่า เขตอุตสาหกรรมเด็กช่างไปเลย แล้วจัดการเปลี่ยนชื่อสถาบันให้เป็นสถาบันเดียวกันให้หมด แล้วไปเรียนอยู่ในพื้นที่เดียวกันให้หมด ให้มันตีกันเอง ให้มันด่ากันเอง แบบนี้ถึงจะเป็นการแก้ปัญหาเด็กช่างตีกันที่ได้ผลที่สุด

แล้วเราก็จะคอยสนับสนุนอาวุธ ฝึกให้มันเก่ง คนไหนเก่ง พวกไหนเก่ง ก็ค่อยจับมันไปอยู่ชายแดน ไปซ่อมรถถัง ขุดถนน ส่วนพวกเอาดีด้านการเรียนก็ค่อยสนับสนุนให้มันเก่งขึ้นในสายอาชีพ แบบที่เป็นอยู่ เชื่อว่ามีหลายคนเข้าใจ การแก้ปัญหาเด็กช่างตีกัน แบบนี้จะดีไหม

เอาเป็นว่าเริ่มเลอะเทอะแล้วผม

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ก่อนปฏิรูปประเทศไทย ปรับปรุงตัวเองก่อน

ส่วนหนึ่งในข่าวของ Social Media ที่กำลังเป็นกระแสปฏิรูปประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ คือ การรณรงค์ให้เลิกใช้ 7-11 หรือแบนสินค้าของ CP ด้วยโครงการเท่ๆ อย่าง แคมแปนแบน 7-11 เป็นเวลา 5 วัน ผมว่ามันไร้สาระ คือกระแสคนในประเทศเรา โดยเฉพาะคนเมือง อาจจะเป็นแค่ชนกลุ่มน้อยของคนส่วนใหญ่ที่เล่น Social Media แล้วเหมือนจะไม่พอใจกับการผูกขาดสินค้าของแบรนด์ดังๆ บางตัว แล้วพากันยกพวกให้ทำนั่นทำนี่

ปัญหาอื่นผมไม่รู้นะครับ แต่สำหรับการรณรงค์ให้เลิกใช้ 7-11 นี่คงเป็นไปได้ยาก อย่างแรกคือ แม้ร้านประเภทนี้จะมีกำเนิดและมีเปิดบริการเยอะแยะมากมาย แต่ดูเหมือนว่า ร้านที่มาใหม่ จะสู้เจ้าที่เป็นปัญหาได้ซักรายเดียว ที่เห็นได้ชัดเจนพอจะฟัดกันไหวในเรื่องความสะดวกสบายภายใน การบริการ และสินค้า ก็จะมีแบรนด์อย่าง F...M นี่แหละที่พอจะสูสี แต่ยังอ่อนเรื่องจำนวนสาขา และการเข้าถึงเหมือน 7-11 และต้องยกนิ้วให้กับเจ้านี่ ที่สามารถใช้กลยุทธ์ จำนวน และการเข้าถึงประชาชน ได้เยี่ยมโดยที่เจ้าอื่นไม่สามารถทำได้ ถึงมันจะมีเบื้องหลังที่ไม่สวยหรูก็ตาม นั่นก็เป็นเชิงธุรกิจ

ลองนึกดู หากเราไม่ใช้สินค้าเค้า เค้าก็คงไม่ได้รู้สึกจนขึ้นมาซักนิด เพราะธุรกิจเพียงแค่ 1 ในร้อยจะล่มไป ซึ่งมันก็ล้มอยู่ในทุกๆ นาทีของการทำธุรกิจใหม่ๆ แต่เค้าก็ยังอยู่ได้ อย่าลืมว่า ยักษ์ ไม่ได้มีไข่แค่ฟองเดียว ก่อนจะมองและแห่แหนว่าต้องแบนๆๆ ไม่ใช้ๆ มองตัวเองก่อนดีกว่าว่า ทำได้จริงหรือไม่ ผมมองว่าเรื่องนี้ควรมีการปฏิรูปเป็นการด่วน อาจจะไม่ใช่เชิงการปฏิรูปประเทศไทยอย่างเดียว แต่ควรปฏิรูปความคิดของคนไปด้วย ก่อนที่จะคิดปฏิรูประบบการค้าเชิงผูกขาด


อย่างแรก ตัวเองทำได้ไหมถ้าต้องไม่ใช้สินค้าพื้นฐาน ซึ่งแน่นอน 7-11 มีอยู่เต็มร้าน
อย่างต่อมา คุณเลิกพฤติกรรมที่เคยชินกับการสะดวกสบายเหล่านี้ได้แค่ไหน
อย่างต่อมาอีก คือคู่แข่ง สามารถเติมเต็มความต้องการของคุณได้ดีแค่ไหนที่คุณจะเปลี่ยน

ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า คนเราย่อมต้องการสิ่งที่ดีกว่า แต่ถ้ามาสนใจรายละเอียดเบื้องหลัง จนเลิกที่จะใส่ใจความต้องการของตนเอง ผมว่าคนแบบนี้น่ายกย่อง ถ้าทำได้จริงๆ นะ แต่ถ้าทำไม่ได้แล้วมาปลุกกระแสให้คลั่ง มันก็เป็นได้แค่กระแสคลื่น ไม่มีกำลังมากพอ อีกเดี๋ยวกระแสคลื่นตัวนี้ อาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวคุณเอง หากสิ่งที่คุณไปแบนเค้า ขึ้นราคาสินค้า หรืออื่นๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานในสิ่งที่เค้ามีมากกว่าคู่แข่ง

แล้วคุณจะทำอย่างไร ลองนึกกันดูเล่นๆ

แต่ถ้าจะให้เลิกใช้ไปเลย ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ คุณใจแข็งพอไหมล่ะ

วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558

ประเทศไทยควรปฏิรูประบบรายการ ด่วนมาก

ผมเชื่อแน่ว่าหลายคนใจตรงกันกับผม ว่าอยากจะให้ประเทศไทยนี้ มีการปฏิรูประบบราชการ เสียใหม่ อย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ ความล่าช้า ยืดยาด และไม่ทันกิน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ในมุมมองของประชาชนทั่วไปอย่างผม ที่อาจยังไม่เข้าใจระบบราชการไทยโดยถ่องแท้ ผมก็คิดว่ามันควรจะปฏิรูปประเทศไทยในส่วนนี้เสียใหม่

เพราะผมคิดว่าระบบราชการไทย ไม่ได้ให้สิทธิ์การตัดสินใจในหน่วยงานดีเพียงพอ ทุกอย่างจะต้องถูกอนุมัติโดยผู้มีอำนาจคนเดียว จากหน่วยงานเล็กๆ ต้องทำเรื่องขอไปยังแผนกใหญ่กว่า ในแผนกใหญ่กว่านั้นก็จะต้องส่งเรื่องขอไปยังหน่วยงานที่ใหญ่กว่า หน่วยงานที่ใหญ่กว่าก็จะต้องส่งเรื่องไปยังเจ้านายกระทรวง ฯลฯ คิดดู ถ้ามันมีซัก 3-4 หน่วยงานที่จะต้องรับผิดชอบ มันจะช้าขนาดไหนกับการรอแค่คนๆ เดียวอนุมัติ แล้วการที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเรื่องให้เพื่อแจ้งให้ทราบหรือขอให้อนุมัติก็ตาม ทำไมปัจจุบัน หัวหน้าหรือผู้มีอำนาจในหน่วยงานยังบอกว่า ไม่ทราบ ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้รับเรื่อง แบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเพียงแค่ทำเป็นหนังสือให้เซ็นดะกันไป โดยไม่ได้ผ่านการพิจารณาให้ถ้วนถี่

อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะยกตัวอย่างในเรื่องขอการปฏิรูปประเทศไทยในเรื่องการปรับปรุงระบบราชการเหล่านี้ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เรื่องช้า ประชาชนรอกันนาน ไม่อนุมัติซักที ต้องส่งเรื่องให้นายผู้มีอำนาจลงนาม แต่กลับกัน เรื่องกินใต้โต๊ะ ทำไมมันอนุมัติกันเร็วเหลือเกิน หรือว่ามันอนุมัติกันมาตั้งแต่หัวลงไปยันหางหรือเปล่า แบบว่า ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแจ้งมา ให้ตัดสินใจไปเลย หรือเปล่า มันถึงได้เร็วนัก


ยกตัวอย่างเล่นๆ ในหน่วยงานราชการหรือองค์กรที่ต้องมีการตรวจสอบอะไรบางอย่าง เช่น หน่วยงาน A เป็นหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ตรวจสอบอะไรบางอย่าง ซึ่งบุคลากรในองค์กร ก็จะมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว นี่คือหน้าที่ แต่เวลาประชาชนขอให้ไปตรวจสอบ จะต้องว่าจ้าง จ่ายใต้โต๊ะ หรือต้องเสียค่าโน่นค่านี่ เพื่อให้บุคลากรในหน่วยงานราชการ ไปทำหน้าที่ เรียกว่า จ้างสองเด้ง

เด้งแรกคือ ประชาชนเสียภาษีให้บุคลากรเหล่านี้ทำหน้าที่ตรวจสอบ
เด้งสองคือ เค้าทำหน้าที่จริง แต่เวลาจะไปตรวจสอบ เราก็ต้องจ้างให้เค้าไปตรวจอีกรอบ

แทนที่เค้าจะต้องเต็มใจเพราะถือเป็นหน้าที่ที่ควรจะทำ ทำให้ฟรีๆ ไปเลยก็ยังได้ เพราะมันเป็นหน้าที่ และเงินเดือนก็ได้อยู่แล้ว แต่นี่ ต้องจ้างให้ไปทำอีก

ประเทศไทยจะพัฒนาได้อย่างไร ถ้าหากระบบราชการยังเป็นแบบนี้อยู่ ควรจะมีการปฏิรูปประเทศไทย ควรปฏิรูประบบราชการ ให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ทำงานให้เต็มที่ งดรับเงินอื่นใดนอกจากเงินเดือน มันจะมีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558

ผังเมือง ควรปฏิรูปก่อนอันดับแรก

หากเราอยากจะปฏิรูปประเทศไทยและเน้นให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างหลักๆ เสียก่อน และก็จำเป็นต้องเน้นในเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้กินดีอยู่ดีมีความสุข ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากหากประเทศไม่มีประชาชน ประเทศก็ไม่เป็นประเทศ พื้นที่ไหนไม่มีประชาชน ไม่มีคน ก็กลายเป็นที่ร้าง ประชาชนเป็นตัวหนุนนำให้ประเทศก้าวเดิน ประชาชนทุกคนทุกหมู่ ไม่เว้นแม้แต่ชนชั้นใดๆ เพราะถือว่านี่คือประเทศ

การที่จะทำให้ประชาพร้อมอยู่และมีความสุขจำเป็นต้องมีกฏระเบียบเพื่อควบคุมพวกชอบแหกคอกทำให้ผู้คนลำบากและมีคุณภาพชีวิตไม่ดีไปกว่าปกติ ผังเมือง ก็เช่นกัน การจัดโซนให้เป็นรูปเป็นร่าง จัดระเบียบและวิถีต่างๆ ให้อยู่เป็นระเบียบเรียบร้อย ก็ถือเป็นการดำรงและรักษาเอาไว้ซึ่งคุณภาพชีวิต อย่างไหนไม่ดีก็ต้องสอบถามและให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้และมีส่วนในการจัดการ แต่ปัจจุบันประเทศไทยไม่เป็นแบบนั้น เรายืนยันว่าจะปฏิรูปประเทศไทย แต่กลับกลายเป็นการเดินผิดทาง มุ่งเน้นในเรื่องของรายได้เข้าประเทศ แทนที่จะรักษารายได้ในประเทศ แล้วเราจะปฏิรูปมันไปทำไม ถ้าปฏิรูประบบผังเมืองไม่ได้



บางจังหวัดผังเมืองยังไม่มีประกาศใช้ ปล่อยให้สังคมเติบโตกันอย่างยถากรรมตามมีตามเกิด ใครนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ นึกอยากจะสร้างโรงงานก็ทำ โดยไม่นึกถึงสภาพความเป็นอยู่ว่าจะมีผลกระทบต่อใครในวงกว้างบ้าง นี่ถือเป็นเรื่องขาดกับหลักโครงสร้างที่จะดำรงรักษาวิถีชีวิตของคนเอาไว้ จังหวัดสมุทรสงคราม ถือเป็นตัวอย่างที่แย่ในระบบการจัดการด้านผังเมือง นับวัน นาเกลือจะยิ่งน้อยลงและกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม สวนมะพร้าวกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ชายหาดและแนวป่าชายเลนแห่งหากินกลายเป็นที่ปล่อยน้ำเสีย

แล้วเราจะปฏิรูปประเทศไทยกันแบบไหน ถ้าปล่อยให้ของดีของประเทศที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เหล่านั้น กลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โดยที่ชาวบ้านต้องทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัยแต่เดิม ทิ้งวิถีชีวิตที่เป็นรากเหง้าและเป็นจุดยืนของชุมชน ของเมือง ของประเทศ ไปสู่การเจริญเติบโต มันจะโตกันแบบไหน นึกภาพกันออกหรือเปล่า

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

การท่องเที่ยวเมืองไทย ควรปฏิรูปด่วน

อย่างที่ว่าไว้ที่ ประเทศไทย เดินผิดทางเรื่องการท่องเที่ยว รับแต่คนไร้คุณภาพ จนปัจจุบันนี้ แทบจะทำให้เกาะพีพีเน่าเฟะแล้ว หากเทียบกับเมื่ออดีต 30 ปีก่อนหน้านั้น แค่ครึ่งของอายุคน ก็แปรเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ อีกไม่กี่สิบปี คงจะไม่เหลืออะไรนอกจากรีสอร์ท และผู้คนไร้คุณภาพที่หลั่งไหลกันเข้าไปทำลายสิ่งแวดล้อม

โดยเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 58 ภายหลังที่กลุ่มคนในโซเชียลได้นำภาพเกาะพีพีในอดีตและในปัจจุบันมาเปรียบเทียบกันให้เห็นจะๆ เลยว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน พร้อมระบุว่าสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของจังหวัดกระบี่และของประเทศไทย ที่มีชายหาดชื่อดังอย่าง อ่าวมาหยา กำลังถูกทำลายโดยน้ำมือมนุษย์ และพัฒนาแบบไม่มีการควบคุม

ภายหลังจากมีการเผยแพร่ออกไปช่วงระยะเวลาหนึ่งนั้น ก็ได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เคยไปเที่ยว และไม่เคยไป ก็ออกมาวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง รวมถึงสมาชิก สปช. และนักวิชาการทางทะเลชื่อดังอย่าง ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ที่ออกมาเรียกร้องให้มีปฏิรูปประเทศไทยและอุทยานทางทะเลด้วย


ในขณะที่ นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และสมาคมโรงแรมในจังหวัดกระบี่ ก็ได้กล่าวเห็นด้วยกับปฏิรูปเรื่องการท่องเที่ยวเมืองไทยและการปฏิรูปอุทยานฯ โดยเฉพาะการเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าเกาะพีพีทั้งบนตัวเกาะ และตามหาดชื่อดังต่างๆ มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเกินไป จนบางแห่งไปแล้วไม่มีที่ยืน ซึ่งเป็นเพราะการเติบโตที่รวดเร็วของธุรกิจท่องเที่ยว แต่รับเอาแต่คนจำนวนมากแต่ไร้คุณภาพ

สิ่งที่อยากจะฝากคือ เรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวหากกำหนดได้ก็จะเป็นเรื่องดี รวมถึงการเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องโปร่งใส ซึ่งในหลายประเทศได้มีการกำหนดเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว ถึงเวลาควรจะมีการปฏิรูปประเทศไทยเสียที พร้อมกันนี้ในด้านปฏิรูปประเทศไทย ก็อยากเรียกร้องให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวนั้น คุมเข้มในเรื่องของการท่องเที่ยว คัดเอาแต่คนที่มีศักยภาพและคุณภาพที่สามารถขึ้นเกาะได้ พร้อมกับการเก็บค่าธรรมเนียมสูงๆ รวมทั้งการบริหารจัดการจะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ด้วยจะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลัง

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

ปฏิรูปสังคมและความปลอดภัยของคน

ช่วงนี้เริ่มงงกับระบบการจัดการปฏิรูปประเทศไทยและมึนๆ กับความคลุมเคลือของยามเฝ้าบ้าน ลองนึกเล่นๆ ว่าอยู่ดีๆ ดันไปเจอเรื่องที่ทำให้ถูกเข้าใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายๆ อย่างหนึ่งเข้านี่ อาจโดนเชิญไปปรับทัศนคติแบบเงียบๆ เอาก็ได้

อยากจะร้องอยากจะบ่น แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ เอาเป็นว่าขอเขียนเรื่องการปฏิรูปสังคมหน่อยก็ดี เพราะตอนนี้อยู่อย่างหวาดๆ แต่ผมว่าคนในเมืองน่าจะหวาดๆ มากกว่าคนต่างจังหวัด เพราะต่างจังหวัด มีแต่ต้นไม้กับนาข้าว ไม่มีตึก ไม่มีห้าง ไกลผู้คน เรื่องเลยเกิดยากหน่อย ผิดกับในชุมชนคนเมือง มีแต่ผู้คน เกิดปัญหาอะไรนิดอะไรหน่อยเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทย ถ้าไม่มีหลักแหล่งหรือพยานบุคคลอ้างอิงจริง แค่หน้าคล้ายคนในรูปใครบางคน ก็อาจซวยได้


สังคมตอนนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ตอนแรกเป็นพยาน วันดีคืนดี กลายเป็นผู้ร้ายไปซะได้ สังคมเมืองไทย เริ่มเข้าสู่ภาวะการอยู่อย่างหวาดกลัวในหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างมากขึ้น หากอยากจะปฏิรูปประเทศไทย ควรทำให้สังคมน่าอยู่มากกว่านี้

ช่วงนี้ดูเหมือนความสุขของประชาชนได้คืนกันทั่วหน้า จนใช้กันไม่เหลือแล้ว มีแต่ความทุกข์เข้ามาแทนที่กันมากขึ้น

วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

ภาษีบ้านและที่ดิน

ช่วงนี้รัฐออกนโยบายอะไรก็ไม่รู้มาทำให้ประชาชนปวดหัวกันใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปฏิรูปประเทศไทย ขนความสุขมาให้ประชาชน ดูเหมือนหลายคนที่เป็นประชาชน กระอักความสุขออกมาเป็นเลือดกันทั่วหน้า ไม่เว้นแม้แต่คนยากคนจน ภาษีบ้านล้านละพัน คิดได้ยังไง สมัยนี้อยากรู้จังใครสร้างบ้านน้อยกว่าล้านบ้าง แค่ที่ดินไม่ถึงไร่ ก็ปาเข้าไปครึ่งแสนแล้ว แล้วถ้าจะปลูกบ้าน สงสัยได้ปลูกเป็นกะต๊อบแทน

หรือท่านจะให้เราอยู่กับแบบนี้


อยากจะบอกว่า นโยบายภาษีบ้านและที่ดิน มันห่วยพิลึกพิลั่น คนหาเช้ากินค่ำได้เงินวันละ 300 บาท ก็แทบจะอ๊วกตายแล้ว ยังต้องหาเงินมาจ่ายภาษีบ้านอีก

การปฏิรูปประเทศไทยในวันนี้ ไม่เอาแล้ว ขอให้มีการปฏิรูปประเทศไทย เรื่องภาษีนี้ด้วยเถอะ ใครจะช่วยได้บ้าง

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทบาทผู้หญิงกับการปฏิรูป

ผมว่าผู้หญิง ก็มีแนวคิดในการปฏิรูปประเทศไทยที่ดีอย่างยิ่งในหลายๆ เรื่อง เช่น อยากให้ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งแฟชั่นนิสต้า หรืออยากให้ประเทศไทยยกเลิกชุดยูนิฟอร์มของชุดนักเรียน อะไรประมาณนี้ ผมว่าก็ดีไปอย่าง ที่มันได้ผลชัดเจนคือ ให้สถาบันการศึกษายกเลิกให้ผู้หญิงไว้ผมทรงหน้าม้า อันนี้เห็นด้วย

ยิ่งสมัยนี้ ผู้หญิงมีบทบาทที่สำคัญในการนำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า สำหรับผู้หญิงกับการปฏิรูปประเทศไทยนั้น อย่างแรกเลย พวกเธอเรียกร้องที่จะให้สังคมยกระดับเพศของพวกเธอให้เทียบเท่ากับบรรดาผู้ชาย โดยอ้างสิทธิเสรีภาพในด้านต่างๆ ว่าผู้หญิงกับผู้ชายก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ทำงานนอกบ้านได้ มีสามีได้ มีภรรยาได้ (จริงๆ นะ ผู้หญิงมีภรรยาได้และผู้ชายก็มีสามีได้) แถมเธอยังบอกว่า เธอให้ทายาทแก่ผู้ชายได้ แต่ผู้ชายไม่สามารถทำได้

ฝ่ายผู้ชายก็เลยยกข้อเสนอที่ได้เปรียบในการปฏิรูปประเทศไทยอย่างหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่อง ความเสมอภาค นั่นคือ การยืนปัสสาวะ ที่ผู้หญิงไม่สามารถทำได้ดีกว่าผู้ชาย

บทบาทผู้หญิงกับการปฏิรูป

ผมว่าก็ลองให้เสรีภาพให้ผู้หญิงเท่าเทียมกันดู ในบรรดาห้องน้ำต่างๆ ก็ไม่ต้องทำห้องน้ำหญิงชาย ทำแต่ห้องน้ำเดียวไปเลย เข้าได้ทุกเพศ ส่วนเวลาไปไหนไม่มีห้องน้ำแล้วผู้หญิงอยากจะถ่ายหนักเบา ก็ให้ใช้ข้างทางให้เป็นประโยชน์ เพราะทุกคนเสมอเท่าเทียมกัน ผู้ชายก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์ที่จะเข้าห้องน้ำได้

มันก็ดีไปอย่างกับบทบาทของผู้หญิงในเรื่องนี้

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ควรปฏิรูประบบความเชื่อ

ประเทศไทยกับปฏิรูปประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะผ่านพ้นสู่ยุคสมัยเดิมไปสู่ยุคสมัยใหม่ ประเทศไทยในวันนี้ผมมองดูแล้ว ณ วันนี้เทศกาลตรุษจีน มีการไหว้เจ้า บรรพบุรุษ กราบไหว้สิ่งต่างๆ ที่เป็นความเชื่อ แต่เดิมมีเฉพาะคนจีน แต่เมื่อมีคนจีนโพ้นทะเลที่มาตั้งรกรากในเมืองไทยก็เกิดเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น ปัจจุบันกลายเป็นวัฒนธรรมประเทศ และวัฒนธรรมโลกไปแล้ว

ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะไม่ดีหรอก แต่ลองนึกๆ ดูแล้วการรำลึกถึงบรรพบุรุษ หรือการรู้คุณนี้มันก็ไม่ได้ผิดแผกอะไรมาก แต่พอมาคิดถึงเรื่องคนไทยเอง รับเอาวัฒนธรรมมาใช้แบบผิดๆ ถูกๆ ไหว้ต้นไม้ ไหว้โน่นไหว้นี่ งงไปหมด แล้วบางคนพอถามว่าเค้าไหว้อะไร ไม่ไหว้บ้างเหรอ กลับได้รับคำตอบว่า ไม่รู้ไหว้อะไร มันคืออะไร เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออะไรที่ต้องไหว้ เอาเข้าไป

คงต้องมีการปฏิรูปความเชื่องมงายกันเสียที ผมมองแล้วประเทศไทยยุคนี้ อาจกำลังเข้าสู่ยุคของยุโรปที่สมัยช่วงแม่มดพ่อมดหมอผี แล้วจุดสิ้นสุดมันคืออะไร แม่มดหมอผีโดนล่า สู่ยุคการล่าแม่มดหมอผี แล้วก็เจริญฮวบฮาบเข้าสู่ยุคใหม่ในทันที


ถ้าหากว่าเราจะมีการปฏิรูปประเทศไทย เราควรจะเริ่มต้นตรงไหนได้แล้ว น่าจะทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับความเชื่อผิดๆ เหล่านี้

เราควรจะปฏิรูปประเทศไทยให้ประเทศได้หลุดพ้นเรื่องเหล่านี้ได้ซักที

วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หาดใหญ่กับการปฏิรูปประเทศ

หาดใหญ่ปฏิรูปประเทศไทยมีชีวิตอำเภอหนึ่งของจังหวัดสงขลา เทศบาลบุรีหาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 21 ตารางกิโล ตั้งอยู่ห่างไกลจากอำเภอเมืองสงขลาหมาย 26 กิโล ชื่อเมือง หาดใหญ่ นี้ สันนิษฐานว่ามีที่มาเดินทางการเรียกตามสภาพของหาดทรายทรายขาวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมคลองส่งน้ำอู่ตะเภา เหรออาจมาจากชื่อต้นมะหาดใหญ่เมืองหาดใหญ่อยู่เหินห่างจากป้อมปราการตรวจคนเข้าเมืองสะเดาพ่าง 60 กิโล จึงถือเป็นเมืองที่เป็นประตูผ่านไปยังประเทศชาติเพื่อนบ้าน รวมความว่า มาเลเซีย ซึ่งสามารถเดินทางเดินต่อไปยังสิงคโปร์ได้ และเป็นศูนย์มัธยมทางด้านธุรกิจการค้า งานขนส่ง การสื่อสาร การคมนาคม และการท่องเที่ยวของจังหวัดและของภูมิภาคที่โดดเด่นที่สุดคือ หาดใหญ่เป็นสวรรค์ของนักซื้อ

เหตุด้วยที่แห่งนี้ มีตลาดกิมหยงและตลาดสันติสุขที่ครอบครองศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าปฏิรูปประเทศไทย ต่างๆ ทั้งทิ้งในและนอกประเทศในราคาถูก อีกทั้งยังมีเครื่องกินการกินอุดมสมบูรณ์ มีของแดกอร่อยๆ มากตวง เมืองหาดใหญ่จึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ที่เดินทางมาจับจ่ายสินค้านานาชนิด ตราบเท่าจนมาใช้ชีวิตยามราตรีตามสถานบันเทิงที่มีอยู่มากมายในหาดใหญ่ แนวการค้าของหาดใหญ่ในปัจจุบันจึงคึกคักอยู่ตลอดเวลา มีความเจริญยิ่งกว่าอำเภอเมืองสงขลาเสียอีก

เกี่ยวกับหลายๆ คน เมื่อกล่าวถึง สงขลา แล้วไป ก็อาจคิดถึงเมืองหาดใหญ่ก่อนเป็นหลัก เนื่องจากอำเภอหาดใหญ่ในปัจจุบันนี้มีฐานะเป็นศูนย์กลางทั้งทางทิศานุทิศการค้าและการคมนาคมของภาค เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติแห่งสำคัญ มีตัวเมืองที่ทันสมัย และมีโรงแรมที่พักอยู่มากมายถึงกว่า 70 ในที่ สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวเตร่ทั้งชาวประเทศไทยและชาวต่างมณฑล โดยเฉพาะชาวมาเลเซียซึ่งเป็นชาติที่เข้ามาท่องเดินทางในประเทศไทยมากที่สุดจำนวนหลายล้านคนในแต่ละปี

ครั้นเดียวกันก็ยังมีอำเภอเมืองสงขลา ที่ยังคงอาการบ้านเมืองที่เก่าแก่ปฏิรูปประเทศไทยอันดำรงฐานะเอกลักษณ์และมีเสน่ห์อยู่ใกล้เคียง ในระยะที่พ่างจะนับได้ว่าเป็นเวียงเดียวกัน เมื่อรวมเอาทั้งหาดใหญ่และสงขลาเข้าด้วยกันจากนั้น เมืองนี้จึงนับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์โครงแห่งหนึ่ง ที่นักเดินทางวิ่งไม่ควรพลาดมาเยี่ยมไปหา